ทัศนธาตของทัศนศิลป์
มนุษย์เราสามารถมองเห็นและสังเกตสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติด้วยตา โดยมีสมองและจิตใจเป็นเครื่องตรวจสอบการเห็นจากภาพที่ปรากฏ ดังนั้นการมองวัตถุใดๆ ตาทั้งสองข้างจะรับภาพในมุมที่ต่างกัน และส่งข้อมูลไปให้สมองแปลข้อมูลจากภาพ 2 มิติ ที่รับจากตาแต่ละข้างรวมกันเป็นภาพ 3 มิติ (ถ้าลองชูนิ้วชี้ขึ้นมา แล้วลองปิดตาทีละข้าง เมื่อเทียบกับพื้นหลังจะเห็นนิ้วในตำแหน่งที่ต่างกัน) มุมมองของตาแต่ละข้างที่รับรู้แตกต่างกันนั้น ทำให้เรารับรู้มิติความลึกได้
- การเห็นรูปและพื้นหลัง (Figure and Ground)
เป็นปกติที่เราจะเห็นรูป และพื้นที่ไปพร้อมๆ กัน ขึ้นอยู่กับความสนใจในการมองของเรา ว่าจะเลือกมองสิ่งใดเป็นรูป และสิ่งใดเป็นพื้น
- การเห็นแสงและเงา (Light and Shadow)
แสงสว่างมีผลต่อการรับรู้และความรู้สึก เพราะมีแสงสว่างในบริเวณที่มีวัตถุตั้งอยู่ เราจึงเห็นน้ำหนักของวัตถุนั้นๆ คุณค่า (Value) ของแสงและเงามีอิทธิพลต่อรูปร่างวัตถุ และเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องศึกษาทั้งในด้านความงามจากธรรมชาติ และการสร้างสรรค์งานศิลปะ ปริมาณและชนิดของแสงที่ตกกระทบลงบนวัตถุ สามารถทำให้เกิดหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกได้
- การเห็นตำแหน่งและสัดส่วน (Position and Proportion)
เป็นการเห็นโดยตำแหน่งของเราเปรียบเทียบกับตำแหน่งของวัตถุ ถ้าเราอยู่ระยะใกล้กับวัตถุ เราจะมองเห็นวัตถุได้ชัด และมีขนาดใหญ่ แต่ถ้าวัตถุอยู่ไกลออกไปวัตถุนั้นจะพร่าเลือน และเล็กลงตามระยะทางจากตำแหน่งที่เรามอง
- การเห็นความเคลื่อนไหว (Motion)
เป็นการรับรู้ในการมองเห็นความเคลื่อนไหวของวัตถุ หรืออาจเพราะตัวเราเคลื่อนไหวเอง จึงทำให้เราเห็นภาพในลักษณะที่เคลื่อนที่
ทัศนธาตุ (Visual Element)
ทัศนะ หมายถึง การเห็น สิ่งที่เห็น เครื่องรู้เห็น การแสดง
ธาตุ หมายถึง สิ่งที่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่รวมกันเป็นรูปร่างของสิ่งทั้งหลาย
ทัศนธาตุ จึงหมายถึง ส่วนสำคัญของสิ่งทั้งหลายที่รวมกันเป็นรูปเป็นร่างตามการมองเห็น
ส่วนประกอบในการมองเห็นของมนุษย์ แบ่งออกเป็น 7 ส่วน เริ่มจากส่วนที่เป็นพื้นฐานที่สุดคือ
- จุด (Dot)
ถือเป็นทัศนธาตุที่เป็นจุดกำเนิดของทัศนธาตุอื่นๆ ต่อไป มีลักษณะเป็นรอยขนาดเล็กที่สุด ปรากฏอยู่บนพื้นระนาบ ไม่มีมิติ เมื่อนำมาต่อเรียงกันจะกลายเป็นเส้น ถ้านำมาจัดกลุ่มจะกลายเป็นรูปร่าง หรือเป็นน้ำหนักให้ปริมาตรแก่รูปทรง
- เส้น (Line)
เป็นองค์ประกอบที่เกิดจากการเรียงรายของจุดที่ต่อกันไปเป็นสายทำให้เกิดเส้น เส้นสามารถบอกถึงความหมาย หรือให้อารมณ์ความรู้สึกทางจิตใจแก่ผู้ดู รวมถึงสร้างรูปทรงต่างๆ ขึ้นได้
เส้นตรง :
- เส้นตั้ง หรือเส้นดิ่ง : ให้ความรู้สึกมั่นคง สง่า หนักแน่น แข็งแรง
- เส้นนอน : ให้ความรู้สึกกว้างขวาง สงบ นิ่ง ผ่อนคลาย
- เส้นเฉียง : ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหว แปรปรวน ไม่มั่นคง
- เส้นหยัก หรือฟันปลา : ให้ความรู้สึกอันตราย ขัดแย้ง รุนแรง ทำลาย มีจังหวะ แหลมคม
- เส้นประ : ให้ความรู้สึกไม่ต่อเนื่อง ไม่แน่นอน ขาดระยะ
- เส้นโค้ง :
- เส้นโค้งลง : ให้ความรู้สึกอ่อนโยน เคลื่อนไหว ไม่แข็งแรง
- เส้นโค้งขึ้น : ให้ความรู้สึกแข็งแรง เชื่อมั่น
- เส้นโค้งแบบเกลียวคลื่น : ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหว ลื่นไหล นุ่มนวล สุภาพ
- เส้นโค้งก้นหอย : แบบหมุนวนออกให้ความรู้สึกคลี่คลาย แบบหมุนวนเข้าจะรู้สึกอึดอัด
- เส้นโค้งอิสระ : ให้ความรู้สึกวุ่นวาย ยุ่งเหยิง สับสน
- รูปร่าง และรูปทรง (Shape and Form)
- รูปร่างธรรมชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ คน สัตว์ แมลง ต้นไม้ ใบหญ้า ฯลฯ
- รูปร่างเรขาคณิต สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม ฯลฯ
- รูปร่างอิสระ หรือดัดแปลง รูปร่างที่สร้างสรรค์ขึ้นตามอารมณ์ของแต่ละบุคคล โดยตัดทอนจากรูปร่างธรรมชาติ หรือรูปร่างเรขาคณิต
- รูปทรงธรรมชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีกฎเกณฑ์ของรูปทรงที่แน่นอน มีการนำมาใช้กันมาก เพราะธรรมชาติมีอยู่รายล้อมรอบตัวเราเสมอ
- รูปทรงเรขาคณิต เกิดจากการสรรสร้างของมนุษย์ โดยถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบพื้นฐานทัศนศิลป์
- รูปทรงอิสระ หรือดัดแปลง ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน เปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อม
- บริเวณว่าง (Space)
- พื้นผิว (Texture)
- น้ำหนัก (Tone)
- สี (Colour)
3 .รูปร่าง (Shape) คือการนำเส้นมาประกอบกันจนทำให้เกิดมิติ ความกว้าง ความยาว ไม่มีความหนา หรือความลึก เป็นภาพ 2 มิติรูปร่างแบ่งได้ 3 ลักษณะ คือรูปทรง (Form) คือเส้นที่ประกอบขึ้นมีทั้งความกว้าง ความยาว และความหนา หรือความลึก มีลักษณะเป็น 3 มิติเป็นบริเวณที่ไม่มีรูปทรงหรือเนื้อหาใดๆ มีบทบาทในการเสริมรูปทรงไม่น้อยกว่าทัศนธาตุทั้งหลาย4.ที่ว่างลบ (Negative Space) คือที่ว่างรอบภาพ และ ที่ว่างบวก (Positive Space) คือส่วนที่เป็นตัวภาพ ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างงานศิลปะ ถ้าในองค์ประกอบนั้นๆ มีรูปทรงหรือรายละเอียดมากไปจะทำให้รู้สึกอึดอัด แต่ถ้ามีพื้นที่ว่างมากไปก็จะให้ความรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว ดังนั้นการจัดองค์ประกอบควรจัดให้เหมาะสมได้สัดส่วน หรือดูตามความต้องการในการสื่ออารมณ์ของการนำเสนอผลงานลักษณะของผิววัสดุที่มองเห็นและสัมผัส ทำให้ได้ความรู้สึกที่ต่างกัน เช่น ผิวเรียบ ผิวหยาบ ผิวมันวาว ผิวด้าน ผิวขรุขระพื้นผิวของงานศิลปะมีทั้งพื้นผิวตามธรรมชาติ และพื้นผิวที่เกิดจากการปรุงแต่ง เช่น การแกะสลักบนผิวไม้ให้เป็นลวดลาย ส่วนภาพเขียนแสดงรายละเอียดของพื้นผิวได้ด้วยเนื้อสี เนื้อกระดาษ หรือเนื้อผ้าใบ และยังสามารถใช้เทคนิคสร้างภาพพื้นผิวทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ให้เป็นลวดลายต่างๆ ได้ด้วยเช่นกันค่าความอ่อนแก่ของสีที่เป็นตัวกำหนดให้ภาพเกิดเป็นสองมิติขึ้น และมีความยาว ความกว้าง ทิศทาง และรูปร่างพร้อมกับเส้นรอบนอกเสมอ ทำให้เกิดค่าแสงและเงา ช่วยให้ภาพมีระยะตื้น ลึก ใกล้ ไกล ทำให้ภาพดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้นสีมีคุณลักษณะของธาตุทั้งหลายรวมอยู่ครบถ้วนทั้งเส้น น้ำหนัก ผิว และมีคุณลักษณะพิเศษเพิ่มขึ้น 2 อย่าง คือ ความเป็นสี (Hue) และการจัดของสี (Intensity)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น